โรคจุดรับภาพตาบวมน้ำไม่ทราบสาเหตุ
(Idiopathic central serous chorioretinopathy)

เขียนโดย รศ.นพ.ดิเรก ผาติกุลศิลา


โรคจุดรับภาพตาบวมน้ำไม่ทราบสาเหตุ (Idiopathic central serous chorioretinopathy) คืออะไร?
  • อาจเรียกย่อๆ ว่าโรค ICSC หรือ CSC
  • เป็นโรคที่มีน้ำมาสะสมอยู่ใต้จุดรับภาพตา (จุดรับภาพหรือจุดภาพชัด คือจุดศูนย์กลางของจอตา ซึ่งเป็นจุดที่ตาใช้มองรายละเอียดภาพได้ชัดเจนที่สุด)
สาเหตุ
  • สาเหตุที่แท้จริงยังไม่ทราบ
  • เกิดจากมีการรั่วของสารน้ำออกมาจากเส้นเลือดเนื้อเยื่อ(ชั้นฆอรอยด์)ที่อยู่ใต้จอตา ทำให้สารน้ำมาสะสมอยู่บริเวณใต้จุดภาพชัด ทำให้มีอาการตามัว
  • เชื่อว่าความเครียดทำให้มีฮอร์โมน cortisol และ epinephrine สูงในร่างกาย และฮอร์โมนเหล่านี้มีส่วนทำให้มีการรั่วของสารน้ำออกมาจากเส้นเลือด
อาการ
  • ตามัว
  • มีเงาสีดำหรือสีชาจางๆ บังบริเวณกลางภาพ (รูปที่ 1)
  • เห็นภาพเล็กลง คล้ายภาพอยู่ไกลมากขึ้น
  • อาจเห็นมีภาพเบี้ยวได้
  • เป็นข้างเดียว อาจเป็น 2 ตาได้ แต่มักเป็นไม่พร้อมกัน
image seen by a patient with central serous chorioretinopathy

รูปที่ 1 ภาพตามัวตรงกลางของคนที่เป็นโรคจุดรับภาพตาบวมน้ำ

fundus photograph of central serous chorioretinopathy

รูปที่ 2 จอประสาทตาของคนที่มีจุดรับภาพบวมน้ำ
(บริเวณลูกศรสีเหลืองชี้)

OCT image of central serous chorioretinopathy

รูปที่ 3 ภาพตัดขวางของจอประสาทตาของคนที่มี
จุดรับภาพตาบวมน้ำ (ดอกจันทร์สีเหลือง)

OCT image of central serous chorioretinopathy

รูปที่ 4 ภาพตัดขวางของจอประสาทตาของคนที่มี
จุดรับภาพตาบวมน้ำ แสดงการบวมด้วยสีแดง

ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคจุดรับภาพตาบวมน้ำไม่ทราบสาเหตุ
  • มักพบในคนที่อายุ 30-50 ปี แต่อายุมากหรือน้อยกว่านี้ก็พบได้บ้าง
  • พบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง
  • มักเป็นคนที่มีบุคลิกภาพที่มีความเคร่งเครียด (Type A personality)
  • เป็นคนที่นอนไม่ค่อยหลับ หรือมีภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ (sleep apnea)
  • บางคนที่ใช้ยา steroid ก็อาจทำให้เกิดภาวะนี้ได้ (มักมีความรุนแรงและเรื้อรังมากกว่าชนิดที่เกิดขึ้นเองโดยไม่ทราบสาเหตุ)
  • มีเชื้อ Helicobacter pylori ในกระเพาะอาหาร
การตรวจตา

การตรวจตา จะพบว่ามีการบวมน้ำบริเวณจุดภาพชัดที่ส่วนกลางของจอประสาทตา (รูปที่ 2)

การตรวจตาพิเศษด้วยเครื่อง OCT จะพบว่ามีน้ำบริเวณใต้จุดรับภาพตา (รูปที่ 3-4)

การรักษา
  • ส่วนมากหายได้เอง ใช้เวลา 1-3 เดือน
  • การรับประทานยากลุ่ม mineralocorticoid antagonist มีรายงานว่ายุบบวมได้เร็วขึ้น
  • ถ้าไม่หายในเวลา 4 เดือน อาจมีการมองเห็นที่ไม่ดีในระยะยาว ควรพิจารณารักษาด้วยเลเซอร์
  • บางคนที่จำเป็นต้องใช้สายตามาก อาจพิจารณาเลเซอร์ก่อน 4 เดือนก็ได้
  • รายที่จะยิงเลเซอร์ จะต้องได้รับการตรวจพิเศษโดยการฉีดสีฟลูออเรสซีนเข้าเส้นเลือดดำที่บริเวณแขน แล้วถ่ายภาพจอประสาทตาเพื่อดูว่ามีจุดรั่วบริเวณใด แล้วใช้เลเซอร์ยิงไปที่จุดรั่วดังกล่าว
  • บางรายที่จุดรั่วอยู่ใกล้จุดศูนย์กลางมาก ทำให้ไม่สามารถยิงเลเซอร์ได้ อาจรักษาด้วยวิธี photodynamic therapy
  • ถ้าเป็นนานกว่า 4 เดือน แล้วไม่ยอมหาย อาจต้องตรวจพิเศษเพิ่มเติม เนื่องจากอาจเกิดจากโรคอื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน เช่น CNV, PCV แต่มีความรุนแรงและเรื้อรังมากกว่า
การพยากรณ์โรค

แม้ว่าจุดรับภาพจะยุบบวมแล้ว แต่การมองเห็นอาจดีขึ้นไม่เท่าปกติ อาจมีอาการเห็นภาพบิดเบี้ยวหรือสีเพี้ยนหลงเหลืออยู่ได้ โดยเฉพาะรายที่เป็นเรื้อรัง

ถามว่า คนที่อายุ 30-50 ปี ตามัวตรงกลาง ก็สามารถรอ 4 เดือน ถ้าไม่หายค่อยไปพบแพทย์แพทย์ ใช่หรือไม่?

คำตอบคือ ไม่ใช่ เพราะอาการตามัวตรงกลางเกิดได้จากหลายโรค เช่น CNV, PCV แต่มีความรุนแรงมากกว่าโรคจุดรับภาพตาบวมน้ำ และต้องการการรักษาโดยเร็ว

โดยสรุปแล้ว
  • โรคจุดรับภาพตาบวมน้ำไม่ทราบสาเหตุ มักพบในคนที่อายุ 30-50 ปี พบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง
  • คนที่เป็นโรคนี้มักมีบุคลิกภาพที่เครียดง่าย พักผ่อนไม่พอ
  • การใช้ยา steroid เพื่อรักษาโรคอื่นๆอยู่ อาจทำให้เกิดโรคจุดรับภาพตาบวมชนิดนี้ได้ และมักมีอาการรุนแรงกว่ากรณีที่เกิดขึ้นเองโดยไม่ทราบสาเหตุ
  • ส่วนมากหายได้เองภายใน 1-3 เดือน แต่ถ้าไม่หาย ควรพิจารณารักษาด้วยเลเซอร์ หรือวิธีอื่นๆ ตามที่แพทย์แนะนำ
  • อย่างไรก็ตาม อาการตามัวตรงกลางสามารถเกิดได้จากหลายโรค จึงควรพบแพทย์โดยเร็วเพื่อให้ได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้อง และได้รับการรักษาอย่างเหมาะสมตามสาเหตุ

ด้วยความปรารถนาดีจาก ดิเรก-ประภัสสร จักษุคลินิก
www.direkclinic.com