เขียนโดย รศ.นพ.ดิเรก ผาติกุลศิลา
ปัจจุบันการผ่าตัดต้อกระจกด้วยนิยมทำ 2 วิธี คือ
ก่อนจะมีเครื่องสลายต้อกระจกใช้ การผ่าตัดต้อกระจกต้องเปิดแผลใหญ่เพื่อเอาเลนส์ที่ขุ่น(ต้อกระจก)ออกมา การคิดค้นเครื่องสลายต้อกระจกขึ้นมา ช่วยให้ไม่ต้องเปิดแผลใหญ่ เป็นการใช้เข็มเล็กๆที่ขับเคลื่อนให้เข็มมีการขยับด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงทำให้เกิดแรงกระแทกที่กระทำต่อต้อกระจก ทำให้ต้อกระจกแตกออกเป็นผงเล็กๆ และสามารถดูดผ่านแผลเล็กๆ ขนาด 2.0-3.0 มิลลิเมตรออกมาได้ ทำให้มีการอักเสบน้อย แผลหายเร็ว ผู้ป่วยสามารถกลับไปทำงานได้เร็ว
ปัจจุบันถือได้ว่า การผ่าตัดต้อกระจกด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง เป็นวิธีมาตรฐานในการรักษาต้อกระจกที่ใช้กันมานานมากกว่า 25-30 ปี โดยที่เครื่องมือมีการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพสูงและปลอดภัยมากขึ้นเรื่อยๆ
รูปที่ 1 เปิดแผลที่ขอบตาดำโดยใช้ใบมีด
(ภาพจาก https://professional.myalcon.com)
รูปที่ 2 เปิดถุงหุ้มเลนส์โดยใช้คีมคีบขนาดเล็ก
(ภาพจาก https://professional.myalcon.com)
รูปที่ 3 ใช้เครื่องสลายต้อกระจกดูดเลนส์ออก
(ภาพจาก https://professional.myalcon.com)
รูปที่ 4 ใส่เลนส์เทียมชนิดพับได้
(ภาพจาก https://professional.myalcon.com)
แผลผ่าตัดโดยวิธีสลายต้อกระจกด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง เป็นแผลที่มีขนาดเล็กเพียง 2.5-3.0 มิลลิเมตร จึงต้องใช้เลนส์เทียมชนิดนิ่ม เรียกว่าเลนส์เทียมชนิดพับได้ โดยการใช้อุปกรณ์ช่วยใส่เลนส์เทียมที่ม้วนพับเหมือนโรตีฉีดเลนส์ผ่านแผลขนาดเล็กเข้าไปในตา (รูปที่ 4)
ปัจจุบันมีเลนส์เทียมให้เลือกหลายชนิด อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่
การผ่าตัดต้อกระจกถือเป็นการผ่าตัดที่มีอัตราของการประสบผลสำเร็จที่สูงมากๆ โอกาสเกิดผลอันไม่พึงประสงค์พบได้น้อยมาก ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้แก่ ความดันลูกตาสูง การมีเลือดออกภายในลูกตา การติดเชื้อ การอักเสบมาก เศษเลนส์ตกค้าง ถุงเลนส์ฉีกขาด ทำให้ใส่เลนส์ไม่ได้ หรือใส่เลนส์ไปแล้วแต่เลนส์ตาอยู่ในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม ค่าสายตาคลาดเคลื่อนไปจากที่แพทย์ตั้งใจ ทำให้เหลือสายตาที่ต้องแก้ไขด้วยแว่นหรือบางรายอาจต้องผ่าตัดซ้ำเพื่อเปลี่ยนเลนส์ใหม่ นอกจากนี้ ยังมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงทางร่างกายอื่นๆ ได้แก่ การมีโรคหัวใจกำเริบ ความดันโลหิตสูงจากความวิตกกังวล การแพ้ยา เป็นต้น
แผลผ่าตัดต้อกระจกในปัจจุบันมีขนาดเล็กและมีรูปร่างแผลที่มีความแข็งแรงสูงกว่าในอดีต ทำให้การปฏิบัติตัวหลังการผ่าตัดง่ายขึ้น แผลติดและหายเร็ว ทำให้ระยะพักฟื้นหลังการผ่าตัดสั้น ผู้ป่วยสามารถกลับไปมีกิจวัตรประจำวันได้อย่างรวดเร็ว คำแนะนำในการปฏิบัติตัวหลังการผ่าตัดอาจมีความแตกต่างกันไปบ้างแล้วแต่แพทย์ผู้ผ่าตัดและผู้ป่วยแต่ละราย แต่สำหรับผู้เขียนเองมักจะแนะนำไว้ดังนี้
โดยสรุปแล้ว การผ่าตัดต้อกระจกในปัจจุบัน มักใช้วิธีการสลายต้อกระจกด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง ถือเป็นการผ่าตัดที่มีความสำเร็จสูง ผลข้างเคียงน้อย มีเลนส์ให้เลือกใช้หลายหลายชนิด จักษุแพทย์เกือบทุกท่านสามารถผ่าตัดต้อกระจกได้ สามารถติดต่อรับบริการได้ที่สถานบริการหรือโรงพยาบาลใกล้บ้าน